บริการ รากฟันเทียม

รากฟันเทียมคืออะไร ?

     รากฟันเทียม หรือ Dental Implants คืออุปกรณ์ทางทันตกรรมที่ใช้แทนที่ฟันที่สูญเสียไป ฟันที่บิดเบี้ยว หรือฟันที่แตกหัก การฝังรากฟันเทียม เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไห้ผลลัพธ์การใช้งานเสมือนฟันธรรมชาติ ต้องทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น โดยแพทย์จะทำการฝังรากฟันเทียมที่เป็นวัสดุไทเทเนียม มีรูปร่างคล้ายรากฟันลงในกระดูกขากรรไกร ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้ดี หลังจากนั้นจึงใส่เดือยรองรับครอบฟันลงบนรากฟันเทียม เพื่อใช้เป็นที่รองรับการครอบฟันหรือฐานรองรับฟันปลอมต่อไป

ทำความรู้จัก รากฟันเทียม 

     รากฟันเทียมจะมีอยู่หลายยี่ห้อด้วยกัน มีมากกว่า 200 ยี่ห้อกันเลย ซึ่งรากฟันเทียมแต่ละยี่ห้อก็จะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัสดุ คุณภาพ และกระบวนการผลิต
     ส่วนใหญ่วัสดุที่ดีและเหมาะที่สุดสำหรับใช้ในการผลิตรากฟันเทียมก็จะเป็นไทเทเนียม เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทาน เข้ากับเนื้อเยื่อมนุษย์ได้ดี และเอื้อต่อการยึดเข้าหากันระหว่างกระดูกกรามและตัวรากฟันเทียม

โดยรากฟันเทียมจะเหมาะสำหรับบุคคคต่อไปนี้

  1. บุคคลที่มีการสูญเสียฟันและปฏิเสธการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
  2. บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
  3. บุคคลที่มีสุขภาพดี สามารถมาตามนัดหมอได้อย่างสม่ำเสมอ

รากฟันเทียมช่วยอะไรได้บ้าง?

     การทำรากฟันเทียมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่สูญเสียฟัน นอกจากรากฟันเทียมจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของฟันอย่างมีประสิทธิภาพ มีความแข็งแรงทนทาน และมีรูปลักษณ์ที่ดูเป็นธรรมชาติเหมือนของจริงแล้ว รากฟันเทียมยังช่วยได้อีกหลายเรื่องในกรณีที่เกิดการสูญเสียฟัน ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียฟัน 1 ซี่หรือหลายซี่ก็ตาม เนื่องจากหากใครสูญเสียฟันและไม่ได้รับการรักษาตามเวลาที่สมควร จะส่งผลกระทบ ดังนี้

  1. ฟันข้างเคียงจะเข้ามาปิดช่องว่าง ส่งผลให้ฟันซี่นั้นๆ เกิดการเอียงหรือล้ม ก่อให้เกิดอาการฟันผุ เป็นโรคเหงือก หรือเกิดโรคปริทันต์ได้ง่าย ทำให้กระดูกบริเวณนั้นหายไป จนเป็นเหตุให้ต้องถอนฟันซี่อื่นๆ เพิ่มอีกอย่างต่อเนื่อง
  2. ฟันคู่สบจะเคลื่อนตัวมาบริเวณช่องว่างนั้น ส่งผลให้ฟันยื่นยาวและเสียวฟันบริเวณนั้น ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา จะส่งผลกระทบต่อฟันคู่สบ ทำให้ต้องถอนฟันคู่สบออก
  3. การที่ฟันที่เหลืออยู่มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ แต่การรับแรงบดเคี้ยวเท่าเดิม จะส่งผลให้ฟันที่เหลืออยู่ต้องรับแรงมากเกินไป ส่งผลให้ฟันแตกได้
  4. ใบหน้าดูมีริ้วรอย เป็นผลจากการสูญเสียความสูงของฟันและการต้องเคี้ยวจากด้านหลัง
  5. ความสวยงามที่หายไป ส่งผลให้ขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะในกรณีที่ฟันหน้า เวลายิ้มแล้วเห็นฟันหลอ

ส่วนประกอบของรากฟันเทียม

ส่วนประกอบของรากฟันเทียมจะประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกัน

  1. Screw หรือ Implant Body or Fixture คือ ส่วนที่อยู่ในกระดูกขากรรไกร ฝังตรงใต้เหงือก ทำหน้าที่แทนรากฟันจริง มีลักษณะคล้ายสกรู
  2. Abutment หรือ Implant Abutment คือส่วนที่รองรับตัวครอบฟัน ที่ถูกนำมาทดแทนโครงสร้างแกนฟังต่อจากส่วน Body Crown คือ ตัวฟันทำจากเซรามิก โดยมีสีเหมือนฟันและรูปร่างลอกเลียนแบบฟันธรรมชาติ

     นอกเหนือจากนี้ยังมี Prosthetic Component คือ ส่วนทันตกรรมประดิษฐ์หรือส่วนของฟันเทียม เช่น ครอบสะพาย โดยใช้กาวทางทันตกรรมเป็นตัวยึด

 

รากฟันเทียมมีกี่แบบ

  • รากฟันเทียม 1 ซี่ แบบปกติ (Single Tooth)
  • รากฟันเทียม หลายซี่ (Multiple Dental Implant)
  • รากฟันเทียม จำนวนมาก (Implant Support Bridge)

 

รากฟันเทียม มีกี่ชนิด

     รากฟันเทียม แบ่งได้เป็น 3 ชนิดหลัก และการใช้แต่ละชนิดจะขึ้นอยู่กับสภาพภายในช่องปาก และ ความจำเป็นของคนไข้แต่ละเคส • การฝัง รากฟันเทียม โดยทั่วไป (Conventional implant)

  • Conventional Implant คือแบบดั้งเดิม มีข้อจำกัดเรื่องเวลาในการรักษา หลังจากถอนฟันแล้วต้องรอ 3-6 เดือน เพื่อให้กระดูกที่ถอนฟันไปมีการหายที่สมบูรณ์ แล้วจึงใส่รากเทียม จากนั้น รออีก 3-6 เดือน เพื่อให้กระดูกยึดติดกับพื้นผิวรากเทียม แล้วจึงทำครอบฟันบนรากฟันเทียม
  • Immediate Implant placement  ประหยัดเวลากว่าแบบแรก คือ หลังจากถอนฟัน แล้วทำการใส่รากฟันเทียมเลย จากนั้น 3-6 เดือน แล้วจึงมาทำครอบฟันบนรากฟันเทียม เหมาะกับฟันหน้า หรือฟันหลังที่มีกระดูกที่พอเพียง สำหรับการถอนฟัน แล้วใส่รากฟันเทียม ร่วมกับการปลูกกระดูก ซึ่งต้องให้คุณหมอเฉพาะทางเป็นผู้ประเมินความเป็นไปได้แต่ละเคส รวมถึงการ X-ray 3 มิติ
  • Immediate loaded Implant คือการใส่รากฟันเทียม ร่วมกับการทำครอบฟัน บนรากเทียมในวันเดียวกัน ข้อดีคือประหยัดเวลา แต่ควรประเมินให้ดีโดยคุณหมอถึงความเป็นไปได้ในแต่ละเคส ซึ่งมีปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณกระดูกที่มีอยู่ ลักษณะการสบฟัน รวมถึงความคาดหวังในการรักษาของคนไข้แต่ละท่าน

ข้อดีของการจัดฟันใส Invisalign

  • แทบมองไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟัน
    เพราะเครื่องมือจัดฟัน Invisalign มีลักษณะใส คนอื่นๆ จึงแทบมองไม่เห็น ทำให้คุณยิ้มได้อย่างเปิดเผย มั่นใจ
  • สามารถถอดได้
    อุปกรณ์จัดฟันใส Invisalign ทำจาก SmartTrack ซึ่งเป็นวัสดุที่ยืดหยุ่นได้ ทำให้สวมใส่ได้ง่ายมาก จึงหมดปัญหาเรื่องลวดหรือเหล็กบาดเหงือกหรือกระพุ้งแก้ม และยังสามารถถอดได้อีกด้วย แตกต่างจากการดัดฟันที่ต้องติดเครื่องมือประเภทอื่นๆ ดังนั้นคุณจึงรับประทานอาหารในแต่ละมื้อได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย เพราะสามารถแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพในช่องปาก
  • ทราบระยะเวลาในการรักษาชัดเจน
    ด้วยโปรแกรม ClinCheck ของ Invisalign ทันตแพทย์จะสามารถจำลองการเคลื่อนของฟันได้ตั้งแต่เริ่มจัดฟันจนสิ้นสุดในรูปแบบ Virtual 3D ทำให้คุณทราบระยะเวลาในการรักษาแต่ละขั้นตอนตั้งแต่เริ่มการจัดฟัน
  • ไม่จำเป็นต้องมาพบแพทย์บ่อยๆ เพราะด้วยเครื่องมือ Invisalign ที่ออกแบบมาดีแล้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยาง หรือขยับลวดบ่อยๆ เหมือนการจัดฟันด้วยเหล็กธรรมดา สามารถพบแพทย์ได้ประมาณ 6 – 8 สัปดาห์ต่อครั้ง

5 เหตุผล ทำไมถึงควรทำรากฟันเทียม ?

     ยุคสมัยนี้ มีทันตกรรมรากเทียม การสร้างรากฟันที่มีประสิทธิภาพ แข็งแรง และทนทาน เพราะฝังไปในกระดูกโดยตรง หรือที่เราเรียกกันว่า “การทำรากฟันเทียม” เหตุผลที่การทำรากฟันเทียมเป็นที่นิยมมากมีดังนี้

  • สามารถทดแทนฟันที่สูญเสียไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนฟันจริง
  • รากฟันเทียมจะฝังลงกระดูก ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียงเพื่อใส่สะพานฟัน หมดปัญหาฟันข้างเคียงเอียงและล้ม
  • รากฟันเทียมมีความแข็งแรง ทนทาน ใช้ได้นาน 10 – 20 ปี
  • เคี้ยวอาหารง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าฟันปลอมแบบธรรมดา
  • ยิ้มได้แบบมั่นใจ ฟันสวย สร้างคุณภาพชีวิตและบุคลิกที่ดีขึ้น

     การทำรากฟันเทียมเหมาะมากสำหรับคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่สูญเสียฟันแท้ ตอบโจทย์เรื่องการใช้งานสุด ๆ คงทน ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 20 ปี การดูแลก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงหมั่นดูแลความสะอาด ไม่เคี้ยวอาหารที่แข็งจนเกินไป และไปพบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม ค่อนข้างสะดวกสบายและไม่ยุ่งยาก มีขั้นตอนดังนี้

  1. การประเมินและวางแผนทางทันตกรรม
    แพทย์จะตรวจสอบสภาพของฟันและกระดูกกราม เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  2. การฝังรากฟันเทียม
    รากฟันเทียมจะถูกฝังลงไปในกระดูกกราม โดยรากฟันเทียมจะมีลักษณะคล้ายกรู มีความแข็งแรง ทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับติดตั้งฟันปลอม
  3. การฟื้นฟูและการรวมตัวกับกระดูก
    หลังฝังรากฟันเทียม จะต้องใช้เวลาให้กระดูกกรามรวมตัวกับรากฟันเทียม
  4. การติดตั้งฟันปลอม
    เมื่อรากฟันเทียมรวมตัวกับกระดูกได้ดีแล้ว แพทย์จะทำการติดตั้งในส่วนของฟันปลอมหรือสะพานฟันลงบนหัวเกลียว ที่อยู่ติดบนรากฟันเทียมให้อย่างเหมาะสม

หากมีข้อสงสัย สามารถทักเข้ามาปรึกษากับแพทย์หรือเข้ามาพูดคุยได้ที่
Your Smile Dental Clinic เราพร้อมจะให้คำปรึกษา วางแผนการรักษา
และดูแลสุขภาพฟันของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

รีวิวรากฟันเทียม

ผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

โปรโมชั่น

รากฟันเทียม

ทดแทนฟันที่สูญเสียไป เทียบเท่าฟันแท้

โปรโมชัน รากฟันเทียม