กลิ่นปากหลังจัดฟัน มักเกิดจากการที่เราดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดีพอ หรือไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะคนที่ จัดฟัน การดูแลฟันและช่องปากให้ถูกวิธี ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะการจัดฟันกว่าจะจัดฟันให้เข้าที่ใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างยาวนาน 18-24 เดือน เป็นต้น และยากต่อการทำความสะอาด ต้องมีความรับผิดชอบ มีวินัย ใส่ใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก หากดูแลไม่ดีอาจเกิดปัญหากลิ่นปากและฟันผุได้
สาเหตุอะไรที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก?
กลิ่นปาก เกิดได้จากแบคทีเรียในช่องปากชนิดหนึ่ง ที่เกิดการทำการย่อยสลายสารประกอบประเภทโปรตีนที่ตกค้างอยู่ในช่องปากและลำคอ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นขึ้นในช่องปาก อีกทั้งยังเป็นสัญญาณบอกว่าคุณกำลังมีฟันผุ มีโรคเหงือกอักเสบ และหากว่าไม่รีบทำการรักษา จะกลายเป็นโรคปริทันต์ ซึ่งจะยิ่งส่งกลิ่นเหม็นในช่องปากอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้น อีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้เกิดกลิ่นปากก็คือ มีภาวะปากแห้งหรือน้ำลายบูด เกิดขึ้นจากการที่ดื่มน้ำน้อยไม่เพียงพอ ทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ ตกค้างอยู่ในช่องปากเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดกลิ่นปากได้
แยกสาเหตุย่อย ๆ ได้ดังนี้
- สูบบุหรี่ ทำให้เกิดคราบเหนียวเกาะบนคราบหินปูนและเคลือบฟัน ทำให้เกิดกลิ่นปากและลมหายใจไม่สดชื่น
- ฟันซ้อน ฟันเก ทำให้ทำความสะอาดยาก เศษอาหารที่เข้าไปติดแน่นส่งผลให้มีแบคทีเรียเข้าไปก่อตัวส่งผลให้เกิดกลิ่นปาก
- ฟันผุ ยิ่งถ้าหากว่าเป็นรูสามารถทำให้มีเศษอาหารเข้าไปฝังแน่น เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
- ทานอาหารที่มีกลิ่น จะส่งผลให้มีกลิ่นปากที่รุนแรงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากว่ารับประทานอาหารที่มีกลิ่นฉุน เช่นทานกระเทียม ปลาร้า ควรรีบบ้วนปากหลังรับประทานเสร็จ 2-3 รอบ
- แปรงฟันไม่สะอาด เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุใหญ่ของการเกิดกลิ่นปากเพราะจะทำให้มีเชื้อแบคทีเรียเติบโตในช่องปากจำนวนมาก และอาจเกิดปัญหาช่องปากตามมาได้ด้วย
- เป็นแผลในช่องปาก มักจะส่งผลให้ผู้ที่เป็นแผลจะไม่กล้าทำความสะอาดแบบทั่วถึง เพราะกลัวเจ็บ ก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากได้อย่างง่ายดาย
- ไซนัสอักเสบ โรคกระเพาะอาหาร โรคหวัด โรคในระบบทางเดินอาหาร ท้องผูก อาจทำให้มีกลิ่นปากได้
- ผู้ที่ใส่ฟันปลอมหรือใส่เครื่องมือต่าง ๆ ในปากเช่น เครื่องมือจัดฟัน เครื่องมือกันฟันล้มเก เฝือกสบฟัน เป็นต้น ถ้าหากรักษาความสะอาดไม่ดีพอก็ทำให้มีกลิ่นได้ โดยเฉพาะเครื่องมือที่ทำด้วยหรือมีส่วนผสมของอะคริลิกอยู่ด้วย เนื่องจากเนื้ออะคริลิกจะมีรูพรุนที่สามารถดูดซึมของเหลวต่าง ๆ ได้ หากล้างไม่สะอาดอาหารก็จะบูดเน่าติดอยู่กับเครื่องมือเหล่านี้จนทำให้เกิดกลิ่นได้ ดังนั้นควรทำสะอาดทุกครั้งหลังจากถอดแล้ว ถ้าไม่ใช้ก็ควรแช่ไว้ในน้ำสะอาด และก่อนนำมาใช้ก็ให้ทำความสะอาดอีกรอบ ถ้ามีคราบหรือหินปูนเกาะก็ให้ใช้น้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอมโดยเฉพาะแช่ไว้เป็นครั้งคราว
- โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์เหงือกอักเสบ เนื่องจากมีหินปูน มีการทำลายอวัยวะรอบรากฟัน เหงือกอ้าออกจากตัวฟัน ทำให้มีเศษอาหารเข้าไปสะสมได้ง่ายขึ้นและแปรงออกไม่หมด จนเกิดเป็นหินปูนอยู่ภายใน แล้วทำให้เกิดการอักเสบ ในรายที่เหงือกอ้าออกมากและมีหินปูนเข้าไปสะสมอยู่มาก ก็อาจจะต้องทำการผ่าตัดเปิดเหงือกออกเพื่อกำจัดหินปูนออกให้หมดก่อน แล้วจึงปิดเหงือกกลับเข้าไปตามเดิม สำหรับผู้ที่เป็นและเคยรักษาโรคปริทันต์มาแล้ว หรือขจัดคราบอาหารออกได้หมด ก็ต้องใช้เครื่องมือทำความสะอาดเพิ่มเติม เช่น ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน แผ่นเทปรัดฟัน เป็นต้น
วิธีการดูแลช่องปากของคนจัดฟัน
- ใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน
- เลือกใช้ ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ ช่วยป้องกันฟันผุ
- แปรงฟัน ซอกฟัน และใช้ไหมขัดฟัน หลังมื้ออาหารทุกครั้ง
- อมน้ำเกลือหลังแปรงฟันเพื่อยับยั้งแบคทีเรียในช่องปาก
- หมั่นตรวจเช็คฟันผุทุก 6 เดือน แนะนำให้ขูดหินปูนร่วมด้วย คนไข้ที่ติดเครื่องมือจัดฟันจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหงือกอักเสบและฟันผุได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่มีความเเข็งหรือเหนียว ๆ พราะเสี่ยงต่อการทำให้เครื่องมือหลุดได้
- สำหรับแผลในปากใช้ขี้ผึ้งที่ได้จากทันตแพทย์ปั้นเป็นก้อนเล็กๆแล้วแปะทับที่ตำแหน่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวบาดแผลบ่อยๆ
วิธีตรวจสอบว่าเรามีกลิ่นปากหรือไม่?
- วิธีที่ 1 ได้กลิ่นน้ำลาย
หากกังวลเกี่ยวกับกลิ่นปาก สามารถตรวจสอบกลิ่นปากได้อย่างง่ายดายด้วยการดมกลิ่นน้ำลาย โดยการล้างมือให้สะอาด ใช้นิ้วแตะด้านบนของลิ้นและส่วนระหว่างฟันและเหงือก แล้วดมกลิ่นน้ำลายที่ปลายนิ้ว น้ำลายที่มีกลิ่นและแห้งและทําให้เกิดกลิ่นปากได้
- วิธีที่ 2 หายใจในถุงพลาสติกหรือถ้วย
บางคนอาจลังเลที่จะสัมผัสโดยตรงในปากของตัวเอง ในกรณีเช่นนี้สามารถใช้ถุงพลาสติกหรือถ้วยเพื่อตรวจสอบกลิ่นปากได้ โดยหายใจเข้าไปในถุงพลาสติกหรือถ้วยแล้วปิดผนึกหนึ่งครั้ง หากได้กลิ่นลมหายใจที่ติดอยู่ แสดงว่าคุณมีกลิ่นปาก
- วิธีที่ 3 ตรวจสอบสภาพของลิ้น
สาเหตุของกลิ่นปากมักเป็นฝ้าสีขาวที่เรียกว่า “ฝ้าขาวลิ้น” บนพื้นผิวของลิ้น ตรวจสอบโดยการแลบลิ้นที่หน้ากระจกและตรวจสอบสีของพื้นผิวลิ้น แม้ว่าร่างกายจะแข็งแรงและไม่มีกลิ่นปาก แต่มีฝ้าขาวอยู่ที่ลิ้นได้ และมีแนวโน้มที่ปริมาณจะเพิ่มขึ้นเมื่อตื่นนอนหรืออดอาหาร แต่ถ้าฝ้าขาวที่ลิ้นหนากว่าปกติ กลิ่นปากอาจแรงขึ้น
- วิธีที่ 4 ได้กลิ่นไหมขัดฟัน
หากใช้ไหมขัดฟันที่ทําความสะอาดระหว่างฟัน ก็สามารถตรวจสอบกลิ่นปากได้ด้วยการดมกลิ่นหลังจากใช้ การทําความสะอาดภายในช่องปาก ก็เป็นสิ่งสําคัญในการดูแลกลิ่นปาก ดังนั้นจึงบอกได้ว่าเป็นข้อได้เปรียบที่จะสามารถตรวจสอบกลิ่นปากและการดูแลช่องปากได้ในเวลาเดียวกัน
ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาฟันแบบไหน แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ผู้ชำนาญจาก YOUR SMILE DENTAL CLINIC เราพร้อมดูแลสุขภาพช่องปากให้คุณ
