ฟอกสีฟัน ฟันขาวนานแค่ไหน มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง?

1. ระดับ 1-2 ฟันขาวขึ้นแบบธรรมชาติ
     ในระดับนี้จะเป็นการฟอกสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้นเล็กน้อยจากสีธรรมชาติ แต่ไม่ขาวจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีสีฟันไม่หมองคล้ำมาก

2. ระดับ 3-4 ฟันขาวสว่าง 
     ในระดับนี้ฟันจะขาวขึ้นแบบสามารถเห็นความแตกต่างจากสีเดิมได้ค่อนข้างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่สีฟันเริ่มหมองคล้ำ เหลือง หรือมีคราบสะสม

3. ระดับ 5-6 ฟันขาวสว่างมาก   
     ในระดับนี้ฟันจะมีความขาวกระจ่างใสอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ฟันมีความขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและกำจัดคราบชา กาแฟ และบุหรี่ออกไป

4. ระดับ 7-9 ฟันขาวมากหรือขาวสุด   
     ในระดับนี้จะเป็นการฟอกสีฟันที่ทำให้ฟันมีความขาว กระจ่างใส เป็นประกาย ซึ่งอาจจะทำให้สีฟันดูขาวเกินไปจนไม่เป็นธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตาม ระดับความขาวนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการฟอกสีฟันและสีฟันเดิมของแต่ละบุคคลด้วย

     การฟอกสีฟันสามารถทำให้ฟันของเรามีความขาวกระจ่างใสได้อย่างรวดเร็ว แต่ผลลัพธ์การคงความขาวของฟันนั้นไม่สามารถอยู่ได้ถาวร โดยปกติแล้วความขาวกระจ่างใสจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีหลังการฟอก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้สีฟันกลับมาคล้ำ สีเหลือง หรือความขาวลดลงนั้น ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและการดูแลรักษาช่องปากของแต่ละคน

• พฤติกรรมการใช้ชีวิตและการบริโภค
       การสูบบุหรี่ การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้ฟันกลับมามีสีคล้ำได้เร็วขึ้น
• การดูแลช่องปาก
       การแปรงฟันไม่สะอาด ไม่ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดคราบตามซอกฟัน จะทำฟันกลับมามีคราบสะสมเกาะติดที่ฟันและสีกลับมาคล้ำเหมือนเดิม
• การดูแลฟันหลังการฟอกสีฟัน
       คนที่รับบริการฟอกสีฟันไปจะต้องหลีกเลี่ยงการทานอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบสีเหลือง ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังการฟอกสีฟัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ไวต่อการดูดซับคราบและสี

     ดังนั้นหลังฟอกสีฟันไปแล้ว ถ้าอยากให้ผลลัพธ์ความขาวของฟันอยู่ยาวนานและคงทน เราเองก็จะต้องหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดของช่องปาก แปรงฟันหลังการทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบ ใช้ยาสีฟันที่ช่วยในการขจัดคราบ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ฟันมีสีเข้ม และควรเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์และรับการฟอกสีฟันซ้ำตามที่ทันแพทย์แนะนำ