เมื่อพูดถึงคำว่า รักษารากฟัน หลายคนอาจรู้สึกกลัว เจ็บ แต่ในความจริงแล้ว การรักษารากฟันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ ที่สำคัญยังเป็นวิธีที่ช่วย “ยืดอายุฟันแท้” และป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากระยะยาวได้อีก ด้วย
วันนี้ Your Smile Dental Clinic จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษารากฟัน ว่าจริง ๆ แล้วมันคืออะไร ช่วยรักษาฟันได้นานแค่ไหน จำเป็นต้องทำไหมถ้าไม่ปวดแล้ว และถ้าไม่รักษาจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มาทำความเข้าใจไปพร้อมกัน
รักษารากฟัน คืออะไร?
การรักษารากฟัน คือ การทำความสะอาดภายในเนื้อฟันและรากฟันที่ติดเชื้อหรืออักเสบ จากนั้นอุดรากฟันด้วยวัสดุเฉพาะทาง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคกลับมาอีกครั้งและที่สำคัญคือ “รักษาฟันแท้ให้อยู่กับเราได้นานที่สุด” โดยไม่ต้องถอนฟัน ไม่ต้องสูญเสียฟัน ไม่ต้องสูญเสียความมั่นใจ และเสี่ยงฟันข้างเคียงเอียงล้ม
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาที่รากฟันมีดังนี้
- ฟันผุรุนแรง
- มีปัญหาโรคเหงือก
- ฟันได้รับการกระทบกระแทกรุนแรง จนทำให้ฟันแตกหักถึงโพรงประสาทฟัน
- นอนกัดฟันรุนแรง
- มีพฤติกรรมการเคี้ยวหรือใช้ฟันที่รุนแรง จนทำให้ฟันร้าวและเชื้อโรคเข้าไปอยู่ในโพรงประสาทฟัน
การรักษารากฟัน ช่วยเก็บฟันแท้ไว้ได้นานแค่ไหน?
หากได้รับการรักษารากฟันอย่างถูกวิธีโดยทันตแพทย์เฉพาะทางและดูแลต่อเนื่องอย่างเหมาะสม ฟันซี่นั้นสามารถอยู่กับเราได้นานหลายปีหรือเป็นสิบ ๆ ปีเลยทีเดียว
โดยอายุของฟันหลังรักษารากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:
- การดูแลความสะอาดของช่องปาก
- การอุดหรือครอบฟันหลังรักษาราก
- การหลีกเลี่ยงการกัดของแข็ง
- การตรวจเช็กสุขภาพฟันประจำปี
แม้ว่าจะผ่านการรักษารากฟันแล้วก็ตาม ฟันก็ยังสามารถกลับมาผุได้ เพราะแม้ว่าเนื้อฟันด้านในโพรงประสาทฟันจะถูกกำจัดไปและอุดรากฟันเรียบร้อยแล้ว แต่ “เนื้อฟันภายนอกยังอยู่” และยังสามารถผุได้เหมือนฟันปกติทุกประการ
สาเหตุที่ทำให้ฟันกลับมาผุหรือมีปัญหาอีกครั้ง หลังการรักษารากฟัน:
- โครงสร้างฟันที่เหลือเปราะและบางลง
- การอุดหรือครอบฟันไม่ดี ทำให้มีช่องว่างให้เศษอาหารหรือแบคทีเรียเข้าไปได้
- พื้นผิวของฟันด้านนอกยังคงโดนคราบอาหาร น้ำตาล และกรดจากแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ฟันผุ
- ไม่ดูแลความสะอาดของช่องปาก
ถ้าไม่อยากให้ฟันที่ได้รับการรักษารากฟันแล้ว กลับมาผุหรือมีปัญหาอีกครั้ง ต้องเลือกรักษารากฟันที่คลินิกที่ได้มาตรฐาน ดูแลโดยทันตแพทย์ และต้องดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีและถูกต้องด้วย นอกจากนี้ ต้องมาพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็กความผิดปกติในช่องปาก หากพบเจอความผิดปกติ จะได้สามารถรักษาได้ทันท่วงที
รักษารากฟันจำเป็นไหม ถ้าไม่มีอาการปวดฟันแล้ว?
บางคนเคยปวดฟันมาก จนต้องไปพบคุณหมอและได้รับยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะมา หลังจากทานยาไปแล้วรู้สึกอาการปวดดีขึ้น จึงคิดว่า “ไม่ต้องไปรักษารากฟันแล้ว” แต่นี่คือความเข้าใจที่อาจนำไปสู่ปัญหาในระยะยาวได้
แม้ว่าอาการปวดจะหายไปแล้ว แต่ไม่ได้แปลว่าเชื้อโรคในรากฟันหายไปด้วย เชื้ออาจจะยังฝังตัวอยู่และอาจลุกลามได้ไปจนถึงกระดูกรอบรากฟัน ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ เป็นหนอง หรือฟันโยกรุนแรงจนต้องถอนฟันในที่สุด
ดังนั้น แม้จะไม่มีอาการปวดแล้ว ก็ควรเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อทำการตรวจเช็กบริเวณรากฟันและรอบกระดูกรากฟัน ถ้าทันตแพทย์วินิจฉัยว่าควรรักษารากฟัน เราก็ควรที่จะรักษา เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง
ถ้าไม่รักษารากฟัน จะเกิดอะไรขึ้น?
- การลุกลามของเชื้อโรคและแบคทีเรียไปยังอวัยวะรอบรากฟันหรือฟันข้างเคียง
- เหงือกอักเสบ เหงือกบวม ปวดฟัน
- สูญเสียฟัน สูญเสียประสิทธิภาพการบดเคี้ยว การออกเสียง และความมั่นใจในรอยยิ้ม
- ค่ารักษาที่สูงมากขึ้น เช่น การปลูกกระดูก การทำรากฟันเทียม
ขั้นตอนการรักษารากฟัน
- X-Ray ช่องปากเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อที่คลองรากฟันหรือไม่
- ให้ยาชา เพื่อความสบายและลดความกังวลของคนไข้ขณะทำการรักษา
- กรอฟัน เปิดโพรงฟัน เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เนื้อฟันที่อักเสบ และเนื้อเยื่อเส้นประสาทภายในออกทั้งหมด
- อุดโพรงรากฟัน ใส่เดือยฟัน
- บูรณะตัวฟันด้วยวัสดุอุดฟันหรือครอบฟัน
ความยากง่ายและความซับซ้อนของการรักษารากฟันจะขึ้นอยู่กับปีญหาฟันของแต่ละบุคคล ยิ่งปล่อยปัญหาฟันไว้นาน การรักษารากฟันยิ่งทำได้ยากยิ่งขึ้น ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันจึงควรรีบเข้ามาพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาปัญหาฟันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
การรักษารากฟัน “ไม่เจ็บ” และไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะมีการใช้ยาชา ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ ส่วนหลังการรักษาเสร็จ อาจจะมีอาการปวด ๆ ตึง ๆ เล็กน้อย ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการกินยาแก้ปวด และอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน ใครที่กังวลเกี่ยวกับการรักษารากฟันอยู่ ไม่ต้องกลัวเลย เข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่คลินิกก่อนได้เลย
หลังรักษารากฟัน ต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไร?
รักษารากฟันไปแล้วก็ต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดีด้วยถ้าไม่อยากให้ฟันที่ได้รับการรักษากลับมามีปัญหาอีกครั้ง
Your Smile Dental Clinic มาแชร์เคล็ดลับการดูแลรักษาฟันหลังการรักษารากฟันแล้ว
- แปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
- ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟัน
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหรือกัดของแข็ง
- พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน
ฟันแท้ของเราสำคัญกว่าที่คิด ซึ่งการรักษารากฟันเป็นหนึ่งวิธีที่จะสามารถช่วยให้เราเก็บฟันแท้ไว้ได้นานที่สุด ช่วยลดความจำเป็นในการถอนฟันและช่วยรักษาความสวยงามของรอยยิ้มไว้ได้
อย่าปล่อยให้อาการ “หายปวดแล้ว” หรือ “คิดว่าไม่เป็นอะไรแล้ว” มาทำให้เราชะล่าใจ และไม่ไปตรวจเช็กรากฟัน Your Smile Dental Clinic ขอแนะนำว่าให้รีบเข้ามาพบทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษา เพื่อสุขภาพฟันที่ดีที่สุดของตัวคุณเอง
มีปัญหาเรื่องฟันหรือสุขภาพช่องปาก Your Smile Dental Clinic ยินดีให้คำแนะนำและพร้อมดูแลคนไข้ทุกคนเหมือนคนในครอบครัว





