ทำไมต้องขูดหินปูน ทุก 6 เดือน ถ้าไม่ขูดเป็นอะไรไหม?
หลายคนอาจเคยได้ยินหมอฟันพูดว่า “อย่าลืมมาขูดหินปูนทุก 6 เดือนนะคะ” แล้วเคยสงสัยไหมว่า ขูดหินปูนไปทำไม? การขูดหินปูนสำคัญไหม? แล้วถ้าไม่ขูดหินปูนจะส่งผลกระทบอะไรต่อฟันหรือไม่?
บทความนี้เราจะพาทุกคนมาคลายข้อสงสัยถึงเหตุผลที่ควรขูดหินปูนเป็นประจำ และผลเสียที่อาจเกิดขึ้นหากละเลยการขูดหินปูน รับรองรู้ไว้มีประโยชน์ สุขภาพฟันดีขึ้นแน่นอน
หินปูนคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร?
หินปูนหรือที่หลายคนเรียกว่า “คราบหินปูน” คือคราบจุลินทรีย์ คราบพลัค และเศษอาหารที่สะสมอยู่บริเวณฟัน ลักษณะเป็นคราบแข็ง มีสีเหลือง น้ำตาล ไปจนถึงสีดำ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่กำจัดออก คราบเหล่านี้จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ และไปจับตัวกับแร่ธาตุในน้ำลายที่ตกตะกอน จนแข็งตัวกลายเป็น “หินปูน” ที่แข็งและติดแน่นบนผิวฟัน ซึ่งจะไม่สามารถขจัดออกได้ด้วยการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว
แม้ในคนที่มีการดูแลช่องปากเป็นอย่างดี แปรงฟันเป็นประจำ ก็ยังมีโอกาสเกิดคราบหินปูนได้ เนื่องจากกระบวนการเกิดคราบหินปูนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันและสามารถสะสมได้รวดเร็วภายในไม่กี่สัปดาห์
ทำไมต้องขูดหินปูนทุก 6 เดือน ?
การขูดหินปูนคือการกำจัดคราบหินปูนที่ติดอยู่ตามผิวฟันและใต้เหงือก ซึ่งเป็นสิ่งที่แปรงสีฟันธรรมดาไม่สามารถทำความสะอาดได้หมด โดยระยะเวลา 6 เดือน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเข้ารับการขูดหินปูน เพราะเป็นช่วงที่หินปูนจะเริ่มสะสมจนสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในบริเวณใต้แนวเหงือก ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดการอักเสบโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว
หากปล่อยไว้นานเกิน 6 เดือน คราบหินปูนจะเกาะแน่น ลึกลงไปใต้เหงือก ทำให้การรักษายากขึ้น เจ็บมากขึ้น และใช้เวลานานขึ้นด้วย
การขูดหินปูนเป็นประจำนอกจากจะช่วยเรื่องรักษาความสะอาดของช่องปากแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคในช่องปากตามมาด้วย:
- ป้องกันโรคเหงือกและปริทันต์อักเสบ
- ลดความเสี่ยงของฟันโยกหรือฟันหลุดในระยะยาว
- ป้องกันการเกิดกลิ่นปาก
- ช่วยให้ทันตแพทย์ตรวจพบปัญหาในช่องปากได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม
โดยทั่วไปแล้ว การขูดหินปูนทุก 6 เดือนถือว่าเป็นความถี่ที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อสุขภาพช่องปาก และสำหรับบางคนที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ มีโรคประจำตัว หรือใส่อุปกรณ์จัดฟัน อาจจะต้องดูแลเรื่องความสะอาดในช่องปากมากขึ้น ทางที่ดีที่สุดคือ แนะนำให้เข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากก่อน เพื่อวางแผนการขูดหินปูนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ปัญหาที่ตามมา หากไม่ขูดหินปูน
การละเลยการขูดหินปูน อาจนำไปสู่ผลกระทบหลายประการ ดังนี้
1. เหงือกอักเสบและมีเลือดออกง่าย
หินปูนที่สะสมอยู่บริเวณแนวเหงือกเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียจำนวนมาก ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เหงือกเกิดการอักเสบ หากปล่อยไว้จะเริ่มมีอาการเลือดออกขณะแปรงฟัน เหงือกบวมแดง และหากยังไม่รักษา อาจลุกลามไปสู่โรคปริทันต์ได้
2. เหงือกร่น
หินปูนที่สะสมใต้เหงือกจะทำให้เหงือกร่น เมื่อเหงือกร่นจะทำให้รากฟันโผล่ออกมา เกิดอาการเสียวฟันและเพิ่มความเสี่ยงในการสูญเสียฟันในอนาคต
3. ฟันโยกและอาจต้องถอนฟันในที่สุด
ในกรณีที่โรคปริทันต์รุนแรง กระดูกที่รองรับฟันจะค่อยๆ สลายตัว ทำให้ฟันขาดแรงยึดเหนี่ยวและเกิดอาการโยก ซึ่งอาจต้องทำการถอนฟันหากไม่สามารถรักษาให้กลับมาแข็งแรงได้
4. เกิดกลิ่นปากเรื้อรัง
แบคทีเรียในหินปูนเป็นต้นเหตุของกลิ่นปาก แม้จะแปรงฟันหรือใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำก็ไม่สามารถกำจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากยังมีหินปูนสะสมอยู่
ขูดหินปูนเจ็บไหม?
คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัย! หลายคนกลัวการขูดหินปูนเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าจะเจ็บและน่ากลัว ซึ่งจริงๆ แล้วความรู้สึกขณะขูดหินปูนขึ้นอยู่กับสุขภาพเหงือกและปริมาณหินปูนที่สะสม
หลังถอดหมุดจัดฟันจะรู้สึกอย่างไร?
หากหินปูนสะสมไม่เยอะและเหงือกไม่อักเสบ การขูดหินปูนจะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดแต่อย่างใด อาจมีเพียงความรู้สึกสะเทือนบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะในบริเวณฟันหน้าหรือฟันกรามด้านใน
ในกรณีที่มีหินปูนสะสมในปริมาณที่มากหรือเหงือกมีอาการอักเสบร่วมด้วย อาจรู้สึกระคายเคืองบ้างเล็กน้อย แต่ในกรณีนี้คุณหมออาจพิจารณาใช้ยาชาช่วย เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากขึ้นระหว่างทำหัตถการ
การขูดหินปูนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด เพราะฉะนั้นอย่ารอจนหินปูนสะสมในปริมาณมากจนเกิดปัญหาในช่องปากตามมา ควรเข้ารับการขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือนตามคำแนะนำของคุณหมอจะดีที่สุด
ข้อแนะนำหลังขูดหินปูน
หลังขูดหินปูนเสร็จ ถ้าอยากช่วยให้ช่องปากกลับสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เหงือกฟื้นตัวได้ดีขึ้น ลดอาการระคายเคือง และคงผลลัพธ์ของการรักษาให้ยาวนานขึ้น ควรปฏิบัติตามนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด เย็นจัด และรสจัดใน 1–2 วันแรก
อาหารร้อน เย็น หรือเผ็ดจัด อาจกระตุ้นให้รู้สึกเสียวฟันหรือระคายเคืองได้ ควรรับประทานอาหารอ่อนและหลีกเลี่ยงของแข็งหรือเหนียว - บ้วนปากเบาๆ ในวันแรก
หากมีเลือดซึมเล็กน้อยหลังการขูดหินปูน ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ควรงดการบ้วนปากแรงๆ เพื่อไม่รบกวนกระบวนการสมานของเหงือก - หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
สารเคมีในบุหรี่และแอลกอฮอล์อาจทำให้กระบวนการสมานแผลของเนื้อเยื่อในช่องปากช้าลงและทำให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่าย ควรงดอย่างน้อย 24–48 ชั่วโมงหลังการรักษา - แปรงฟันเบาๆ และใช้ไหมขัดฟันอย่างระมัดระวัง
ใช้แปรงขนนุ่มและใช้ไหมขัดฟันตามบริเวณซอกฟันที่แปรงเข้าไม่ถึง - ใช้น้ำยาบ้วนปากตามคำแนะนำของทันตแพทย์
ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและช่วยลดอาการอักเสบ - หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ
ถ้าเลือดออกมากผิดปกติ เหงือกบวมแดง เจ็บปวดมาก หรือมีกลิ่นปากรุนแรง โดยอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2–3 วัน ควรกลับมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจซ้ำ - นัดตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
เพื่อรักษาผลการรักษาให้ยาวนานและป้องกันการกลับมาสะสมของหินปูน ควรเข้ารับการตรวจและขูดหินปูนทุก 6 เดือน
อย่าลืมมาตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนทุก 6 เดือน
แม้จะไม่ได้มีอาการผิดปกติใดๆ แต่การตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนโดยทันตแพทย์ทุก 6 เดือน ถือเป็นการป้องกันปัญหาภายในช่องปากที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มาให้ Your Smile Dental Clinic ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากของคุณ เราพร้อมให้บริการด้านการขูดหินปูน ตรวจสุขภาพช่องปาก และดูแลทางด้านทันตกรรมอย่างครบวงจรโดยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
มั่นใจในทุกขั้นตอนได้เลย Your Smile Dental Clinic มีเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ได้มาตรฐาน หากคุณมีปัญหาภายในช่องปาก เรายินดีให้คำปรึกษาและให้บริการ





