สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ “จัดฟัน” : การจัดฟันแต่ละประเภท ต่างกันอย่างไร

การจัดฟันแต่ละประเภท

     การจัดฟันแต่ละประเภท ไม่ข้อดีแตกต่างกัน ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามและความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากโดยรวมและการใช้งานฟันของเราด้วย เพราะการมีฟันที่เรียงตัวสวยงามและสบกันอย่างถูกต้องจะช่วยให้เราทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงของปัญหาฟันผุและโรคเหงือก รวมถึงช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

     ที่ Your Smile Dental Clinic เราเข้าใจดีว่าการตัดสินใจจัดฟันเป็นการลงทุนครั้งสำคัญ ทั้งในเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่าย ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญของการจัดฟันแต่ละประเภทมาเปรียบเทียบให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้น เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจเลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณที่สุด

การจัดฟันแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร

จัดฟัน จัดฟันเหล็ก จัดฟันใส จัดฟันดามอน จัดฟันเซรามิก
  1. จัดฟันโลหะ (Metal Braces) เป็นวิธีการจัดฟันที่รู้จักกันดีและใช้มายาวนาน
    ข้อดี: ประหยัดและคุ้มค่าที่สุดในแง่ของค่าใช้จ่ายเริ่มต้น และมีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาฟันที่ซับซ้อน

    ข้อจำกัด: เห็นเครื่องมือชัดเจน อาจเกิดการระคายเคืองต่อกระพุ้งแก้มและลิ้น ทำความสะอาดค่อนข้างยาก ต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารที่แข็งหรือเหนียวเป็นพิเศษ

    ระยะเวลาการรักษาโดยประมาณ: 2 – 3 ปี *ขึ้นอยู่กับปัญหาของฟัน

  2. จัดฟันดามอน (Damon Braces) เป็นระบบที่พัฒนามาจากจัดฟันโลหะ/เซรามิกทั่วไป โดยใช้กลไกแบบบานประตูเปิด-ปิด (Self-Ligating) แทนยางรัดฟัน
    ข้อดี: ลดแรงเสียดทาน ทำให้ฟันเคลื่อนที่เร็วกว่าแบบโลหะทั่วไป ลดความเจ็บปวด และไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย

    ข้อจำกัด: ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ ไม่สามารถเปลี่ยนสียางสวย ๆ ได้ และยังคงเห็นเครื่องมือชัดเจน

    ระยะเวลาการรักษาโดยประมาณ: 1 – 3 ปี *ขึ้นอยู่กับปัญหาของฟัน

  3. จัดฟันเซรามิก (Ceramic Braces) ใช้หลักการทำงานเหมือนจัดฟันแบบโลหะทุกประการ แต่ใช้วัสดุเซรามิกที่มีสีใกล้เคียงกับสีฟันมาทำแบร็กเก็ต
    ข้อดี: อุปกรณ์มีสีใกล้เคียงกับฟัน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพที่ดี

    ข้อจำกัด: ราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ และหากดูแลไม่ดียางรัดฟันหรือตัวเซรามิกอาจติดสีจากอาหารได้

    ระยะเวลาการรักษาโดยประมาณ: 2 – 3 ปี *ขึ้นอยู่กับปัญหาของฟัน

  4. จัดฟันใส (Clear Aligner) เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ ใช้ชุดเครื่องมือพลาสติกใส (Aligners) ที่ทำขึ้นเฉพาะบุคคลโดยใช้ระบบสามมิติ 3D เข้ามาช่วยในการออกแบบการรักษา ทำให้คนไข้เข้าใจแผนการรักษามากขึ้นและเห็นผลลัพธ์ของการจัดฟันได้จากภาพ 3D
    ข้อดี: สวยงาม แทบมองไม่เห็นอุปกรณ์ ฟันเคลื่อนตัวไว สามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหารและแปรงฟัน ทำให้สะดวกสบายและดูแลความสะอาดได้ง่าย

    ข้อจำกัด: ค่าใช้จ่ายสูง ต้องมีวินัยในการสวมใส่เครื่องมืออย่างเคร่งครัด (20 – 22 ชั่วโมงต่อวัน) หากใส่น้อยกว่ากำหนด การรักษาอาจไม่เป็นไปตามแผน และอาจไม่เหมาะกับเคสที่มีปัญหาฟันซับซ้อนสูง

    ระยะเวลาการรักษาโดยประมาณ: 6 เดือน – 2 ปี *ขึ้นอยู่กับปัญหาของฟัน
วิธีการดูแลสุขอนามัยช่องปากที่ถูกต้องในระหว่างจัดฟัน

     ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีการจัดฟันแบบไหน การดูแลความสะอาดช่องปากเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะหากดูแลไม่ดีจะนำไปสู่ปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่ายกว่าปกติมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการจัดฟันแบบติดแน่น (โลหะ, ดามอน, เซรามิก)

     สำหรับจัดฟันแบบติดแน่น (โลหะ, ดามอน, เซรามิก)

  1. แปรงฟันโดยใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ และทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ แบร็กเก็ตและซอกลวดอย่างพิถีพิถันหลังอาหารทุกมื้อ
  2. ใช้ไหมขัดฟัน เพื่อทำความสะอาดซอกฟัน ใต้ลวดจัดฟันอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้งก่อนนอน
  3. ใช้แปรงซอกฟัน ทำความสะอาดใต้ลวดและช่องว่างระหว่างฟัน
  4. ใช้น้ำยาบ้วนปากร่วมด้วยเพื่อช่วยลดเชื้อแบคทีเรียและเสริมสร้างความแข็งแรงของฟันตามคำแนะนำของทันตแพทย์

     สำหรับจัดฟันใส (Clear Aligner)

  1. แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันตามปกติ เนื่องจากสามารถถอดเครื่องมือออกได้ 
  2. ทำความสะอาดเครื่องมือด้วยแปรงทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันใสทุกครั้งก่อนสวมกลับเข้าไป ห้ามใช้น้ำร้อนล้าง เพราะจะทำให้เครื่องมือเสียรูปทรงได้
  3. ห้ามใส่เครื่องมือขณะทานอาหารหรือเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) ให้ถอดออกก่อนทุกครั้ง
สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราควรจัดฟัน
สัญญาณที่บอกว่าควรจัดฟัน

     หากคุณพบปัญหาเหล่านี้ในช่องปาก นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ควรปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันแล้ว

  • ฟันสบลึก: ฟันหน้าบนลงมาคลุมฟันหน้าล่างมากเกินไปจนเกือบมิด อาจทำให้ขอบฟันหน้าล่างชนกับเพดานปากด้านบน และเพิ่มการสึกหรอของฟันหน้า
  • ฟันสบเปิด: เมื่อกัดฟันแล้ว ฟันบนและฟันล่างไม่สัมผัสกัน มีช่องว่างเปิดอยู่ตรงกลาง ทำให้กัดอาหารได้ยาก หรืออาจมีปัญหาในการออกเสียง
  • ฟันสบคร่อม: ฟันบนซี่ใดซี่หนึ่งหรือหลายซี่ไปสบอยู่ด้านในของฟันล่าง อาจทำให้เกิดการสึกหรอของฟัน และทำให้ขากรรไกรทำงานผิดปกติ หรือใบหน้าดูเบี้ยวได้
  • ฟันยื่น: ฟันหน้าบนยื่นออกมาด้านหน้ามากเกินไป ทำให้ส่งผลต่อรูปหน้าโดยรวม
  • ฟันซ้อน ฟันเก: ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ทำให้ขากรรไกรเกิดความผิดปกติ และทำความสะอาดได้ยาก
  • ฟันห่าง: ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ มีช่องว่างระหว่างฟัน หากปล่อยไว้นานจะทำให้ฟันยิ่งห่างหรือโน้มเอียง
การจัดฟันประเภทไหนเหมาะกับเราที่สุด

     การเลือกประเภทการจัดฟันที่ดีที่สุดคือการเลือกที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน งบประมาณ และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด ลองพิจารณาตามนี้ได้เลย

  • เน้นเรื่อง “ความประหยัด ความทนทาน และมีเวลามาพบทันตแพทย์ทุกเดือน” เลือก จัดฟันโลหะ
  • เน้นเรื่อง “ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เจ็บน้อย ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย และไม่อยากให้คนสังเกตเห็นเครื่องมือชัดเจน” เลือก จัดฟันดามอน
  • เน้นเรื่อง “ความสวยงาม ติดแน่น ไม่อยากให้คนสังเกตเห็นเครื่องมือชัดเจน” เลือก จัดฟันเซรามิก
  • เน้นเรื่อง “ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว มองไม่เห็นเครื่องมือ ดูแลความสะอาดง่าย” เลือก จัดฟันใส
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการจัดฟันคือการปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน เพราะทันตแพทย์จะสามารถประเมินโครงสร้างฟันและปัญหาฟันของคุณ เพื่อแนะนำวิธีการจัดฟันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณได้อย่างแม่นยำ

ที่ Your Smile Dental Clinic ทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบรอยยิ้มใหม่ให้คุณอย่างมั่นใจ เพื่อให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุด

นัดหมายได้เลย ทีมทันตแพทย์ของเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง